วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553

frame-13 : หนีออกจากบ้าน ความคิดที่ผมคิดว่าตอนเด็ก หลายคนคงเคยคิด

ผมหายไปนานเลยครับกับบทความในบล็อกนี้ "ความพยายามที่จะเลว" ครั้งนี้ ผมขอพิมพ์บทความ ที่ผมคิดว่า ตอนสมัยที่ทุกคนเป็นเด็ก อาจจะมีสักครั้งที่มีความคิดหนีออกจากบ้าน ซึ่งการที่เด็กคนหนึ่งจะหนีออกจากบ้านได้ ต้องมีมูลเหตุที่ใหญ่พอสมควร ถึงจะมีความคิด และกล้าที่จะหนีออกจากบ้าน งั้นเริ่มเรื่องเลยนะครับ

ปกติตั้งแต่ 10 ขวบ ผมจะช่วยอาม้า (คุณแม่) ขายของที่ร้านอยู่แล้วทุกวัน ตอนนั้นประมาณ ป.6 11 ขวบได้แล้วครับ ผมกำลังเทน้ำส้มไบเล่ (จำแม่นเลยครับ) ใส่ในถุง พอดีมีมดคันไฟมันกัดนิ้ว อารามตกใจ ผมปล่อยขวดไบเล่ ลงพื้น เสียงขวดแตกดัง จนพอที่อาม้าจะได้ยิน แล้ววิ่งออกมาจากหลังบ้าน ขายให้ลูกค้าเสร็จ ก็โดนบ่นชุดใหญ่ ว่าไม่มีความอดทน ก้มหน้า + น้อยใจ + เครียด ทำให้เริ่มมีความคิดแปลกๆ

"หนี" "ต้องหนีออกจากบ้าน" "ไม่ไหวแล้ว ทนไม่ไหว"

ทำไมนะ เราถึงผิดตลอด พยายามจะเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกันฟัง จึงหาวิธีอธิบายความรู้สึกว่า
  • สมมุติว่า ผู้ใหญ่วางแก้วน้ำแบบหมิ่นเหม่ที่มุมขอบโต๊ะ แล้วผมเดินมาชนแตก ก็คงว่าผมซุ่่มซ่าม
  • แต่ถ้าผมเป็นคนวาง ผู้ใหญ่มาชน ผมคงโดนว่า วางแก้วน้ำไม่เป็นที่เป็นทาง อยู่ดี สรุปว่าเด็กผิดตลอด

ยังไงซะเราต้องหนีออกจากบ้านให้ได้ ติ๊ก....ต๊อก.....ติ๊ก...ต๊อก..... คิดๆ แล้วก็คิด ปิ๊ง...... อย่างอื่นไม่ห่วง ตัวผมขยันอยู่แล้ว ทำอาชีพอะไรก็ได้ แต่ก็ต้องีเงินทุน เพื่อไปหาที่พัก ไปซื้อของ ซื้อของกิน แล้วเราต้องมีเงินเท่าไหร่ดีละ 500 บาทเป็นไง สำหรับผมตอนนั้น 500 บาท เยอะมาก น่าจะเอาตัวรอดได้ ความรู้สึกนี้ของผมยังคงอยู่ ผมรอวันหนีออกจากบ้าน

แล้วในที่สุด เวลาที่รอคอยกำลังใกล้เข้ามาแล้ว อดทนอีกนิด

ผมป่วยจนได้ครับ ตอนนั้นมีหัดกำลังระบาด ผมเป็น "หัดเยอรมัน" ครับ คันมากเลยครับ เป็นตุ่มแดงด้วยครับ อาม้าก็พาผมไปหาหมอครับ ต้มข้าวต้มให้กินครับ ดูแลผมเป็นพิเศษครับ ทุกอย่างดำเนินไป โดยที่ผมก็คิดว่า เพื่อนๆ คงทราบดีว่า เวลาเราป่วย เราจะกลายเป็น VIP ขึ้นมาทันที (ส่วนใหญ่นะครับ) ระหว่างที่ป่วยนี้ หยุดคิดหนีออกจากบ้านก่อนนะครับ

ตกดึก อาม้าหลับไปแล้ว แต่ผมยังไม่หลับ คันมากเลยครับ เกาอย่างเมามัน มีออกเสียงไปด้วย จนอาม้าตื่น และห้ามผมเกา ผมบอกว่าคันมาก อาม้าลากผมเข้าไปกอด ล็อคมือ ล็อคเท้าไว้ ทำเหมือนผมเป็นหมอนข้าง อาม้าชอบนอนกอดหมอนข้าง

แล้วบอกผมว่า "อย่าไปนึกว่าคันสิ"
ผมถามว่า "ม้าไม่กลัวติดหัดเยอรมันเหรอ"
ม้าตอบว่า "ไม่ติดหรอก ม้าเป็นผู้ใหญ่"

จากนั้นผมก็คิดอะไรไปเรื่อย ไม่ได้นึกถึงอาการคัน กลัวแต่ว่าอาม้าจะติดหัด แล้วจะทำยังไงดีละเนี่ย คิดนู่นคิดนี่ จนหลับไป

แต่ที่แน่ๆ นะครับ ตอนนี้ผมไม่มีความคิดที่จะ "หนีออกจากบ้าน" อีกแล้วครับ

เพื่อนๆ เคยคิดหนีออกจากบ้านไหม ลองดูสิ แล้วจะรู้ว่าได้อะไรเยอะเลย เพราะต้องเตรียมการพอสมควรครับ

ขอบคุณครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
13/3/2553

วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551

frame-12 : คุณเคย "เฉี่ยวแล้วหนี" ไหม ผมว่าเหตุการณ์ของผมน่าจะใช่นะครับ

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ที่ได้อ่านบทความพยายามที่จะเลวของผม ซึ่งก็เป็นบทความที่ผมคิดว่า คงจะเกิดขึ้นกับหลายๆ คน เพื่อนๆ เคยขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุ และเป็นฝ่ายผิด และหนี ไหมครับ ของผมก็ไม่ถึงกับชนหรอกครับ แค่ "เฉี่ยว" เท่านั้น เหตุการณ์บังคับคราวนี้ เป็นอย่างไร ตามอ่านกันได้เลยครับ

ผมเคยไปติดต่องานที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งถ้าใครหลายๆ คนเคยต้องขับรถไปเอง แล้วต้องเข้าไปจอดรถในลานจอดรถของสนามบินดอนเมือง จะทราบเลยว่า รถเยะมากๆ จะว่าแน่นก็น่าจะได้ การจอดซ้อน หรือจอดขวาง ก็มีมากมาย บางที ที่ไม่พอ จอดขวาง 2 ด้านเลยก็มี พอจะเห็นภาพแล้วนะครับว่า จะเกิดการเฉี่ยวอย่างไร

ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นรถวอลโว่ กลางเก่ากลางใหม่ในตอนนั้น (เรื่องราวก็เป็น 10 ปีแล้วละครับ) จอดขวางอยู่ ที่แคบมากๆ ผมก็พยายามแล้ว ก็จนได้ เฉี่ยวรถเขาเลย แบบว่าเฉี่ยวจนรู้สึกว่าโดนนะครับ สีติดรถเลยครับ ดูผิวเผินก็ไม่บุบ แต่ถ้าดูด้านข้างก็ไม่เรียบละครับ ดูยังไงก็ไม่ปกติ ก็ถือว่าเป็นอุบัติเหตุเฉี่ยวชนนั้นแหล่ะครับ (พูดตามประกันภัยนะครับ)

แต่ผมก็รีบ จึงขึ้นไปทำธุระก่อน หวังกลับมาจะเจอรถวอลโว่คู่กรณี ปรากฏว่ากลับลงมา ไม่เจอรถคู่กรณีซะแล้ว อาจจะเป็นด้วยความรีบก็ว่าได้ ทำให้ผมไม่ได้คิดวิธีอื่นๆ เช่น เขียนกระดาษแนบไว้หน้ารถ หรือทิ้งนามบัตรเอาไว้ เป็นต้น

ช่วงนั้นก็คิดมากหลายคืน ผมว่านะ ผมคิดมากกว่าตอนที่ผมรู้ว่า ผมเป็นผู้ทุพพลภาพเสียอีก เพราะผมคิดเงียบๆ คนเดียว เพียงแค่คืนเดียว แล้วเพื่อนๆ ละครับ เคยเจอเหตุการณ์แบบผมบ้างไหมครับ

ขอบคุณครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
22/12/2551

บทความที่ได้รับความนิยม 10 อันดับแรก