วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

frame-10 : ผมจำได้ว่า "ผมเคยเป็นเด็กเส้น"

สวัสดีครับ เพื่อนๆ กลับมาพบกันอีกกับเนื้อหา "ความผิดพลาด" ที่ผมจะทยอยพิมพ์บทความให้อ่าน เพื่อหวังว่า อาจจะเป็นประโยชน์กับใคร แม้แต่คนเดียว ก็คุ้มเกินคุ้มครับ

สมัยเด็กๆ เพื่อนๆ เคยไหมครับ ต้องสอบเข้าโรงเรียนมัธยม 1 ดังๆ ตอนอยู่ ป.6 ผมก็เช่นกันที่ไม่พ้นวังวนที่ต้องสอบแข่งขันกับทุกคนที่อยากเข้าเรียนในโรงเรียนดังๆ ตอนนั้นผอายุ 11 ขวบ จำได้ว่า คุณพ่อบุญธรรม (พี่ชายคุณแม่ของผม) ผม มาหาที่บ้านและถามผมว่า ระหว่าง โรงเรียนเทพศิรินทร์ กับ โรงเรียนโยธินบูรณะ อยากเรียนที่ไหน ซึ่งคุณพ่อบุญธรรมผม ค่อนข้างเชียร์ให้เข้าที่เทพศิรินทร์ แต่ผมคิด 2 เรื่อง ที่จะเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ คือ เวลาซึ่งสัมพันธ์กับค่าใช้จ่าย กับการช่วยงานที่บ้าน

ดังนั้นผมเลือกเข้าเรียนที่ โรงเรียนโยธินบูรณะ (อยู่แถวสี่แยกเกียกกาย) เพราะผมอยู่ตลาดศรีเขมา ห่างจากโรงเรียนแค่ 2 กิโลเมตร (ตึกแถวที่ผมอยู่ ตรงข้ามกับพื้นที่ ที่เคยเป็นข่าวว่า เป็นพื้นที่ใหม่ที่จะให้โรงเรียนย้ายมาอยู่ครับ) สามารถเดินไปเรียนได้เลย ใช้เวลาเพียง 15 นาที เท่านั้นเอง ตอนเช้าผมสามารถช่วยงานบ้าน ที่เป็นร้านขายของได้ทุกอย่างครับ ซึ่งถ้าผมต้องนั่งรถไปเรียนที่เทพศิรินทร์ แถวหัวลำโพง คงทำไม่ได้

ในที่สุด ผมก็ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนโยธินบูรณะ สมใจ ซึ่งพี่ชายผมอีกคนหนึ่ง (ลูกพี่ลูกน้อง) เป็นผู้ติวข้อสอบให้ผมเอง โดยผมได้เรียนห้อง ที่รองจากห้องที่ใครๆ ก็ว่าเป็นห้องที่เด็กเก่งที่สุด หรือในสมัยผมเรียกว่า ห้องคิงส์ ไป 2 ห้อง (ลำดับ 3) ซึ่งส่วนตัวแล้ว เด็กห้องคิงส์ ก็เก่งจริงๆ เก่งทุกคน เพราะเด็กเหล่านี้ตอนขึ้น ม.ปลาย เก่งมากๆ

ตลอด 3 ปีเต็ม ในชีวิตมัธยมต้น ที่ผมต้องรับรู้ฝ่ายเดียวว่า ผมเป็น "เด็กเส้น" จึงได้เข้ามาเรียน แล้วผมก็พยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่า ถ้าผมเป็นเด็กเส้นจริง ทำไมมาอยู่ห้องลำดับต้นๆ หรืออาจจะมองได้ว่า เป็นเด็กในลำดับ 101-150 คน จากทั้งหมด 600 คน แสดงว่า ผมสอบได้เอง ผมบอกเพื่อนๆ ได้เลยว่า เรื่องนี้ผมคิดมากจริงๆ คือ เครียดไปเลย

แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่า "ยิ่งผมเป็นเด็กเส้น ผมยิ่งต้องเรียนให้ดี ไม่ให้ใครมาคิดได้ว่า ผมเรียนไม่ดี แล้วเข้ามาเรียนได้ เพราะ "เส้นเข้ามา" ครับ" ดังนั้น ผมจึงพยายามเรียนจนได้เกรดเฉลี่ย 3.20 ถ้าจำไม่ผิดนะครับ เพื่อให้ผ่านเกณฑ์ของโรงเรียน ที่ต้องไม่ต่ำกว่า 2.50 ไปเรียนชั้น ม.ปลาย ได้เลย

และผมก็ไม่อยากทำให้คุณแม่ผิดหวัง เพราะการที่เราไม่พยายามเรียนให้ดี ก็จะทำให้ผู้ปกครอง หรือคุณพ่อ คุณแม่ของเรา ต้องมาปวดหัว ที่จะต้องหาโรงเรียนให้ หรือต้องใช้เงินมากมาย เพื่อให้เราได้เรียนที่ดีๆ

หวังว่าบทความนี้ คงพอทำให้เพื่อนๆ คิดถึงโรงเรียนเก่า ที่ได้เคยร่ำเรียนมา คิดถึงคุณครู อาจารย์ ที่เคยสอน หรือ แม้แต่ถ้าใครเคยเป็น "เด็กเส้น" เหมือนผมนะครับ

ขอบคุณครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
28/4/2551

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม 10 อันดับแรก